Home โรคและทางออกในการแก้ปัญหาด้วยสมุนไพรองค์ความรู้ โรคกรดไหลย้อน กรดไหลย้อน อาการ สาเหตุ แนวทางในการรักษาและการปฏิบัติตัว

กรดไหลย้อน อาการ สาเหตุ แนวทางในการรักษาและการปฏิบัติตัว

written by nai-kamin 01/09/2017
กรดไหลย้อน อาการ สาเหตุ แนวทางในการรักษาและการปฏิบัติตัว

โรคกรดไหลย้อน (Gastrosophageal Reflux Disease : GERD)

คือภาวะที่น้ำย่อยหรือกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดอาหาร และทำให้เกิดอาการเจ็บ หรือแสบหน้าอก บางครั้งก็รู้สึกเปรี้ยวๆ

โรคกรดไหลย้อนสามารถพบได้คั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงอายุ แต่จะพบว่ามักจะเกิดขึ้นสูงในกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไปโดยผู้หญิงและผู้ชายมีโอกาสเกิดเท่าๆกัน

 

อาการของโรคกรดไหลย้อน มีดังต่อไปนี้

1.เจ็บหน้าอก จุก คล้ายมีอะไรตัด หรือขวางอยู่บริเวณคอ

2.มีอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก หลังจากการรับประทานอาหารมื้อหนัก หรือเวลาโน้มเอียงไปข้างหน้า เวลายกของหนัก หรือการนอนหงาย

3.ผู้ป่วยบางรายมีอาการเรอ มีน้ำรสขม หรือรสเปรี้ยวไหลย้อนจากกระเพาะขึ้นมาที่คอ

4.มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียร หลังการรับประทานอาหาร

5.อาจมีอาการแห้งๆ เสียงแหบเจ็บคอ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นจากกรดไหลย้อนขึ้นมาบริเวณกล่องเสียง และทำให้กล่องเสียงอักเสบ

 

สาเหตุของโรคกรดไหลย้อน

1.ความผิดปกติของหูรูดส่วนปลายของหลอดอาหารที่ทำหน้าที่ป้องกันกรดไหลย้อนจากกระเพาะอาหารรับแรงดันได้ต่ำ หรือเปิดบ่อยกว่าช่วงปกติ

2.เกิดจากความผิดปกติในการบีบตัวของหลอดอาหารทำให้การเคลื่อนย้ายอาหารไปสู่กระเพาะทำได้ช้า หรืออาหารที่ไหลย้อนขึ้นมาจากกระเพาะอาหารค้างอยู่ในหลอดอาหารนานกว่าปกติ

3.ความผิดปกติในการบีบตัวของกระเพาะอาหารทำให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานกว่าปกติ ส่งผลให้โอกาสเกิดการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารมีมากขึ้น

 

แนวทางในการรักษาโรคกรดไหลย้อน

1.พบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยโรค แพทย์อาจให้ยาหรือทำการผ่าตัด

2.การรัปประทานยา

3.การรับประทานอาหารเเสริมที่ช่วยบรรเทากรดไหลย้อน

4.การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

 

การปฎิบัติตัว

ผู้ป่วยที่มีอาการโรคกรดไหลย้อนไม่มากนัก สามารถรักษาโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตดังนี้

1.ระวังเรื่องน้ำหนักตัว อย่าให้อ้วนหรือน้ำหนักมากเกินไป

2.หลีกเลี่ยงการดื่ม ชา กาแฟ แอลกอฮอลล์ น้ำอัดลม หรือ อาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด ไขมันสูง รวมทั้งงดสูบบุหรี่

3.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเย็นในปริมาณมาก

4.ไม่ควรนอนทันทีหลังการรับประทานอาหาร อย่างน้อยควรหลัง 3 ชั่วโมง

5.ควรรับประทานอาหารในปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง

6.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

7.หลีกเลี่ยงความเครียด

You may also like

This function has been disabled for Innoherb.

error: ภาพและข้อมูลมีลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้ Copy ครับ !!