เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าขมิ้นชันมีสารสำคัญที่ชื่อ เคอร์คูมินอยด์ Curcuminoid สารดังกล่าวเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการบรรเทาแผลในกระเพาะอาหารและเป็นตัวช่วยเรียกน้ำดีในการย่อยอาหาร รวมทั้งเป็นสารสำคัญในการบรรเทากรดไหลย้อน แต่ด้วยสารดังกล่าวเป็นมีคุณสมบัติสำคัญ 2 ประการคือ
1)เป็นสารที่มีความคงตัวสูง
2)เป็นสารที่ไม่ละลายน้ำ
ดังนั้นเมื่อรับประทานขมิ้นชันเข้าไปร่างกายจะไม่สามารถนำสารสำคัญนี้ไปใช้ประโยชน์ได้ ทำให้การรับประทานขมิ้นชันทั่วไป ที่ยังไม่ผ่านการสกัดและทำให้ละลายน้ำได้ง่ายจึงได้รับประโยชน์จากสารสำคัญนี้น้อย
ขมิ้นชันสกัด Green Curmin เป็นเจ้าแรกของโลกที่ทำให้สารสำคัญนี้อยู่ในระดับ ไมเซลและสามารถละลายน้ำได้ 10,000 เท่า ซึ่งสูงที่สุดในปัจจุบันที่สามารถทำได้ ทำให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที จึงทำให้เกิดประโยชน์ในการนำไปบรรเทาโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อนได้
การทดลองง่ายๆ ที่ทำให้เข้าใจง่ายมากขึ้นว่า ขมิ้นชันสกัดกรีนเคอร์มินมีคุณสมบัติพิเศษในการละลายน้ำได้อย่างไร โดยการนำขมิ้นชันที่พร้อมใช้งานในรูปแคปซูลมาละลายน้ำดังภาพต่อไปนี้
1.นำผลขมิ้นชันท้องตลาดและขมิ้นชันกรีนเคอร์มินมาอย่างละ 1 แคปซูล สังเกตุผงขมิ้นชันกรีนเคอร์มินเป็นผงขมิ้นชันที่ผ่านการสกัดและมีส่วนผสมของพริกไทยดำ
2. นำขมิ้นชันแคบซูลมาแกะเปรียบเทียบกันจะพบว่าสีและความละเอียดของขมิ้นชันกรีนเคอร์มินและท้องตลาดแตกต่างกันอย่างชัดเจน นั่นคือขมิ้นชันท้องตลาดมีลักษณะเป็นผงที่หยาบกว่ามาก ที่สำคัญมีปริมาณที่น้อยกว่าผงขมิ้นชันกรีนเคอร์มิน
3. หลังจากดึงแคบซูลขมิ้นชันออกแล้วนำผงขมิ้นชันเทลงไปในแก้วน้ำในเวลาพร้อมๆ กัน จะพบว่าขมิ้นชันกรีนเคอร์มินสามารถละลายน้ำได้ทันทีอย่างรวดเร็วกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัว ขณะที่ขมิ้นชันของท้องตลาดจะค่อยๆ ละลายอย่างช้าๆ
4.หลังจากที่ทิ้งไว้ให้ขมิ้นชันทั้งสองประเภทละลายน้ำประมาณ 10 นาทีจะพบว่าขมิ้นชันของท้องตลาดจะค่อยๆเกิดตะกอนที่ก้นแก้ว ขณะที่ขมิ้นชันกรีนเคอร์มินยังละลายเป็นเนื้อเดียวกับน้ำเหมือนเดิม
สรุปให้เห็นจากการทดลองได้ว่าขมิ้นชันที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการในการสกัดและทำให้อยู่ในรูปที่ละลายน้ำได้ง่ายจะไม่สามารถละลายน้ำได้ตามคุณสมบัติที่กล่าวไว้ คือ สารเคอร์คูมินอยด์จากขมิ้นชันทั่วไปไม่ละลายน้ำและร่างกายไม่สามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้
หรือดู การสาธิตการละลายน้ำของขมิ้นชันที่นี่