โรคกรดไหลย้อน (Gastrosophageal Reflux Disease : GERD)
คือภาวะที่น้ำย่อยหรือกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดอาหาร และทำให้เกิดอาการเจ็บ หรือแสบหน้าอก บางครั้งก็รู้สึกเปรี้ยวๆ
โรคกรดไหลย้อนสามารถพบได้คั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงอายุ แต่จะพบว่ามักจะเกิดขึ้นสูงในกลุ่มที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ขึ้นไปโดยผู้หญิงและผู้ชายมีโอกาสเกิดเท่าๆกัน
อาการของโรคกรดไหลย้อน มีดังต่อไปนี้
1.เจ็บหน้าอก จุก คล้ายมีอะไรตัด หรือขวางอยู่บริเวณคอ
2.มีอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอก หลังจากการรับประทานอาหารมื้อหนัก หรือเวลาโน้มเอียงไปข้างหน้า เวลายกของหนัก หรือการนอนหงาย
3.ผู้ป่วยบางรายมีอาการเรอ มีน้ำรสขม หรือรสเปรี้ยวไหลย้อนจากกระเพาะขึ้นมาที่คอ
4.มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียร หลังการรับประทานอาหาร
5.อาจมีอาการแห้งๆ เสียงแหบเจ็บคอ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นจากกรดไหลย้อนขึ้นมาบริเวณกล่องเสียง และทำให้กล่องเสียงอักเสบ
สาเหตุของโรคกรดไหลย้อน
1.ความผิดปกติของหูรูดส่วนปลายของหลอดอาหารที่ทำหน้าที่ป้องกันกรดไหลย้อนจากกระเพาะอาหารรับแรงดันได้ต่ำ หรือเปิดบ่อยกว่าช่วงปกติ
2.เกิดจากความผิดปกติในการบีบตัวของหลอดอาหารทำให้การเคลื่อนย้ายอาหารไปสู่กระเพาะทำได้ช้า หรืออาหารที่ไหลย้อนขึ้นมาจากกระเพาะอาหารค้างอยู่ในหลอดอาหารนานกว่าปกติ
3.ความผิดปกติในการบีบตัวของกระเพาะอาหารทำให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานกว่าปกติ ส่งผลให้โอกาสเกิดการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารมีมากขึ้น
แนวทางในการรักษาโรคกรดไหลย้อน
1.พบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยโรค แพทย์อาจให้ยาหรือทำการผ่าตัด
2.การรัปประทานยา
3.การรับประทานอาหารเเสริมที่ช่วยบรรเทากรดไหลย้อน
4.การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
การปฎิบัติตัว
ผู้ป่วยที่มีอาการโรคกรดไหลย้อนไม่มากนัก สามารถรักษาโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตดังนี้
1.ระวังเรื่องน้ำหนักตัว อย่าให้อ้วนหรือน้ำหนักมากเกินไป
2.หลีกเลี่ยงการดื่ม ชา กาแฟ แอลกอฮอลล์ น้ำอัดลม หรือ อาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด ไขมันสูง รวมทั้งงดสูบบุหรี่
3.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเย็นในปริมาณมาก
4.ไม่ควรนอนทันทีหลังการรับประทานอาหาร อย่างน้อยควรหลัง 3 ชั่วโมง
5.ควรรับประทานอาหารในปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง
6.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
7.หลีกเลี่ยงความเครียด