Home เทคนิคพิชิตกรดไหลย้อน
Category:

เทคนิคพิชิตกรดไหลย้อน

รวมเทคนิคด้านต่างๆ เพื่อพิชิตกรดไหลย้อน

    แนวทางในการแก้ปัญหากรดไหลย้อนให้หายขาดได้เร็

    การที่ปัญหากรดไหลย้อนที่แต่ละคนเป็นมายาวนานจะมีดีขึ้น มีความจำเป็นที่จะต้องมีวิธีการแก้ไขอย่างถูกวิธี ซึงทางแอดมินขอแนะนำแนวทางที่ใช้ได้ผล จากการได้ช่วยเหลือลูกค้าในการแก้ไขปัญหานี้มานานกว่า 3 ปี โดยมีแนวทางในการแก้ไขปัญหากรดไหลย้อน และกระเพาะอาหารดังวิธีต่อไปนี้

    1.เช็คตัวเองให้ได้ว่าเป็นกรดไหลย้อนระยะไหน

    ระยะที่ 1 โรคกระเพาะอาหาร เป็นอาการเริ่มต้นกรดไหลย้อน เกิดการอักเสบบริเวณผนังกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดแก้สในกระเพาะอาหารมากขึ้น  มีอาการจุกเสียดแน่นน้อง ลมในท้องเยอะ อาจปวดเมื่อยตามร่างกาย มีอาการเรอเปรี้ยว

    ระยะที่ 2 ปัญหาระบบขับถ่าย จุกเสียดแน่นท้อง เรอปรี้ยวมากขึ้น จุกที่คอมากขึ้น เริ่มมีปัญหาระบบขับถ่าย ขับถ่ายไม่ดี อุจจาระออกมาไม่เป็นก้อน เป็นปัญหาที่ต่อเนื่องจากระบบย่อยอาหารไม่ดี เกิดแก้สในท้องมากขึ้น

    ระยะที่ 3 สารอาหารในเลือดน้อย กระเพาะอาหารมีปัญหาสะสมยาวนาน การดูดซึมสารอาหารของร่างกายทำได้ไม่ดี ทำให้เกิดสารอาหารในเลือดน้อย ร่างกายเริ่มอ่อนเพลีย นอนไม่ค่อยหลับ ง่วงนอนบ่อย น้ำหนักลด
    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ คลิ๊ก!

    2.รู้แนวทางในการแก้ไขปัญหากรดไหลย้อนทั้ง 3 ระยะ

    ระยะที่ 1 ต้องรีบรักษาการอักเสบของกระเพาะอาหารให้หายโดยเร็ว หากการอักเสบลดลง อาการโรคกระเพาะอาหาร ทและกรรดไหลย้อนจะลดลง
    ระยะที่ 2 แก้ปัญหาเหมือนระยะที่ 1 และแก้ปัญหาระบบขับถ่าย เพื่อลดปัญหาการสะสมของอุจจาระในลำไส้ใหญ่ ต้องดีท็อกลำไส้มากขึ้น เพื่อลดแก้ส
    ระยะที่ 3 แก้ปัญหาเหมือนระยะ 1และ 2 เพิ่มให้ร่างกายได้รับสารอาหารในเลือดมากขึ้น ต้องบำรุงให้เลือดได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น

    3.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิต
    เพราะปัญหากรดไหลย้อนเป็นปัญหาที่เกิดมาจากพฤติกรรมในการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกหลักสุขภาพมาเป็นเวลานานโดยไม่รู้ตัว และเมื่อเริ่มรู้ตัวปัญหากรดไหลย้อนก็เริ่มเยอะแล้ว
    พฤติกรรมที่ต้องปรับเปลี่ยนมี 3 เรื่องที่สำคัญคือ

    3.1 พฤติกรรมเกี่ยวกับการกิน ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกินดังนี้

    -กินอาหารให้ตรงเวลา การกินอาหารที่ไม่ตรงเวลา ทำให้น้ำย่อยหลั่งไม่เป็นเวลา สะแปะสะปะ ทำให้ปัญหากรดไหลย้อนเพิ่มขึ้น

    -งดการกินเสร็จแล้วเอนตัวลงนอนทันที และควรเว้นช่วงเวลาก่อนนอนหลังอาหารอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้มีเวลาในการย่อยอาหารเพียงพอ และน้ำย่อยไม่ไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ง่าย

    -กินอาหารที่มีประโยชน์ งดเว้น อาหารที่จะก่อให้อาการกรดไหลย่อนเพิ่มขึ้น  ซึ่งมีประเด็นย่อยๆ ดังต่อไปนี้

    1) อาหารย่อยยาก เช่นอาหารพวกเนื้อ หรือมีมันเยอะ(ทำให้กระเพาะทำงานหนัก อาหารตกค้างนานทำให้เกิดแก้สเยอะ)

    2.) อาหารรสจัด หวานจัด อาหารหมักดอง ทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร อาหารหวานทำให้กระเพาะทำงานหนักขึ้น

    3.) อาหารมัน ทำให้การย่อยอาหารทำได้ยากมากขึ้น กระเพาะทำงานหนักมากขึ้น

    4.) เครื่องดืมที่มีแอลกอฮอลล์ ทำให้เกิดน้ำตาลเยอะ เครื่องดื่มที่มีแก้ส เช่นน้ำอัดลม ทำให้เกิดแก้สในกระเพาะมากขึ้น

    5.) งดชากาแฟ และเครื่องดื่มที่มีกาแฟอีน  กาแฟอีนจะเป็นตัวกระตุ้นให้น้ำย่อยหลั่งออกมาไม่เป็นเวลา ขณะที่หลั่งออกมาในช่วงไม่ใช่เวลาอาหารทำให้เกิดการอักเสบบริเวณกระเพาะอาหารมากขึ้น และเกิดแก้สมากขึ้น

    3.2 พฤติกรรมในการใช้ชีวิตระหว่างวัน เช่น การใช้เวลา การนอน การออกกำลังกาย การทำงาน
    พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง
    -การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา เบียร์ ของมึนเมา ทำให้ปัญหากรดไหลย้อนเพิ่มมากขึ้น
    -การนอน ควรนอนให้เป็นเวลา และไม่ควรนอนดึก เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองได้ดีมากขึ้น
    -หลีกเลี่ยงความเครียดจากการทำงาน ความเครียดทำให้เกิดการหลั่งกรดออกมา และทำให้เกิดการบั่นทอนสุขภาพมากขึ้น
    -คนที่ทำงานเป็นกะ หรือต้องเปิดร้านขายของ แล้วพักผ่อนไม่เป็นเวลา กินอาหารไม่เป็นเวลา ต้องจัดการปัญหาเรื่องอาหารและเวลาผักผ่อนให้ได้ มิฉะนั้นจะแก้ปัญหากรดไหลย้อนได้ยากมาก
    -ควรแบ่งเวลาออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อจะสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น

    3.3 พฤติกรรมเกี่ยวกับวิธีคิด ปัญหากรดไหลย้อนที่เกิดขึ้นนานๆ มักก่อให้เกิดความเครียดกับคนที่มีปัญหากรดไหลย้อน และทำให้ไม่มีความสุขในการใช้ชีวิต อีกทั้งจะเป็นปัญหาที่บั่นทอนสุขภาพให้แย่ลงเรื่อยๆ ความคิดที่ถูกต้องในการแก้ปัญหาจึงสำคัญ โดยเฉพาะความเชื่อว่าตัวเองสามารถหายจากปัญหากรดไหลย้อนนี้ได้จึงเป็นตัวสำคัญมากๆ เมื่อเกิดความเชื่อว่าฉันสามารถหายได้จะทำให้เรามีจิตใจที่สงบมากขึ้น และมีสมาธิในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งเริ่มรับมือกับความเครียดที่เข้ามามากขึ้นได้ หากเราไม่สร้างความเชื่อว่าฉันสามารถหายได้ และเกิดความคิดในสมองว่าฉันจะแย่กว่านี้ไหม? ฉันจะหายไหม? ก็จะทำให้เกิดผลที่แย่ๆ ตามมามากขึ้น

    เมื่อเราเชื่อว่าเราหายได้ ดีขึ้นได้  เราจะเกิดความรู้สึกที่สงบและพร้อมจะรับมือกับปัญหา ปัญหานี้จะค่อยๆ ลดลง เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งในการแก้ปัญหากรดไหลย้อน (จิตใต้สำนึกเป็นอีกหนึ่งกลไกในการช่วยรักษาและซ่อมแซมร่างกายของเราเองได้ เราจึงต้องรู้จักและฝึก)

    4.หาแนวทางในการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเอง
    ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ห่างไกลจากปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหากรดไหลย้อนรุนแรงมากขึ้น ดังที่กล่าวแล้วในข้อ 3
    แนวทางในการรักษากรดไหลย้อนมีหลายวิธี ดังนี้

    4.1 การพบแพทย์ การใช้ยา แพทย์จะวินิจฉัยปัญหาและให้ยามาพร้อมแนวทางการรักษาที่ถูกต้องมาให้ แต่แนวทางในการพบแพทย์และการใช้ยา แม้อาจจะช่วยแก้ปัญหากรดไหลย้อนให้ดีขึ้นได้ แต่ก็เป็นวิธีที่สร้างภาระให้ กับ ตับ ไตเพิ่มขึ้นในระยะยาวด้วยเช่นกัน การรักษาที่ใช้ยาเป็นเวลานานๆ จึงไม่เป็นผลดีกับร่างกาย
    แพทย์อาจให้ยาลดกรด หรือยาช่วยย่อยมาให้ ยาลดกรด อาจช่วยบรรเทาอาการได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่สามารถใช้รักษาความเสียหายจากน้ำย่อยที่ไปทำลายเยื่อบุของหลอดอาหารได้  นอกจากนี้ยาลดกรดไม่ได้ช่วยแก้ปัญหากรดไหลย้อนที่ต้นเหตุ เพียงช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนให้ลดลงเท่านั้น

    4.2 การพบแพทย์และการการผ่าตัด แพทย์อาจแนะนำให้มีการผ่าตัดเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง เพื่อป้องกันกรดหรือน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมา แต่วิธีนี้ทำให้เจ็บตัว และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกเยอะ

    4.3 การแก้ปัญหากรดไหลย้อนโดยการใช้สมุนไพร  มีสมุนไพรมากมายที่ช่วยแก้ปัญหากรดไหลย้อนได้ เช่น ขิง ขมิ้นชัน กล้วย มัสตาร์ด ว่านหางจระเข้  แต่ด้วยสมุนไพรแต่ละชนิดในปัจจุบัน ยังไม่มีงานวิจัย หรือหลักฐานทางการแพทย์สนับสนุนเพียงพอถึงประสิมทธิภาพในการรักษา และความปลอดภัยของร่างกาย เพราะบางประเภท อาจส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพด้านอื่นๆ เช่น
    ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ใช้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด ควรรับประทานว่านหางจระเข้ด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง
    นอกจากนี้การใช้สมุนไพรในการแก้ปัญหากรดไหลย้อน อาจต้องใช้ระยะเวลาในการรับประทานที่ยาวนาน เพื่อให้ได้รับปริมาณสารออกฤทธิ์ในปริมาณที่เพียงพอ

    4.4 การรักษากรดไหลย้อน โดยการใช้ขมิ้นชันสกัดละลายน้ำ 16,000 เท่า ที่ชื่อ กรีนเคอมิน เคอม่าแม็กซ์ เพราะเป็นขมิ้นชันที่นำไปสกัดสารสำคัญที่ชื่อ เคอร์คูมินอยด์ ออกมา และทำให้อยู่ในรูปไมเซลล์ที่ละลายน้ำได้สูงสุด ที่ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปลดการอักเสบของเซลล์บริเวณผนังกระเพาะได้ทันที เป็นแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ

    โดยปกติแล้วขมิ้นชันทั่วไปไม่สามารถละลายน้ำ จึงทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ยาก การรับประทานขมิ้นชันทั่วไปในการรักษากรดไหลย้อนจึงต้องใช้ระยะเวลาในการรับประทานที่ยาวนานและต้องรับประทานจำนวนมากติดต่อกันจึงจะเห็นผล แต่ ด้วยขมิ้นชันกรีนเคอมิน-เคอม่าแม็กซ์ เป็นขมิ้นชันที่ผ่านกระบวนการวิจัย ที่สามารถสกัดสารสำคัญออกมาใช้แก้ปัญหากรดไหลย้อนได้สำเร็จ ทำให้สามารถลดอาการอักเสบในกระเพาะอาหารลงได้ทันที การแก้ปัญหากรดไหลย้อนโดยวิธีนี้จึงได้ผล จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

    หากท่านต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ขมิ้นชันกรีนเคอมิน- เคอร์ม่าแม็กซ์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ คลิ๊กที่รูปด้านล่าง

    พบแนวทางแก้ปัญหากรดไหลย้อนที่เห็นผล

    ด้วย กรีนเคอมิน เคอม่าแม็กซ์ ขมิ้นชันรางวัลเหรียญทองระดับโลก

    รายละเอียด คลิ๊๊ก รูปด้านล่างเลยค่ะ

    02/03/2020 0 comment
    0 Facebook Twitter Google + Pinterest
  • กรีนเคอมิน (Green Curmin)&#821…

    0 Facebook Twitter Google + Pinterest
  • เป็น“โรคกรดไหลย้อน&#8221…

    0 Facebook Twitter Google + Pinterest
  • ขมิ้นชันผลงานวิจัยเหรียญทองระด…

    0 Facebook Twitter Google + Pinterest
  • ในช่วงการเป็นกรดไหลย้อน มีความ…

    0 Facebook Twitter Google + Pinterest
  • การใช้กล้วยน้ำว้าในการรักษาแผล…

    0 Facebook Twitter Google + Pinterest

This function has been disabled for Innoherb.

error: ภาพและข้อมูลมีลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้ Copy ครับ !!